
ผลพวงโลกร้อน แบบฝนเปลี่ยน กระทบน้ำ 28 เขื่อน เผชิญท่วม-แล้ง
ผลพวงอากาศเปลี่ยนแปลงส่งผลรูปแบบการตกของฝนเปลี่ยนแปลง พายุพัดตรงเข้าพื้นที่ภาคใต้ ระบบบริหารน้ำปั่นป่วนท่วม-แล้งในฤดูเดียว กระทบปริมาณกักเก็บน้ำ28เขื่อนใหญ่แนะสร้างเขื่อนพวงรอบเขื่อนขนาดใหญ่ ลดความเสี่ยงการจัดการน้ำ
ดร.รอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) กระ ทรวงวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า จากที่มีการคาดการณ์ว่าในปี 2551 ปริมาณน้ำฝนในประเทศไทยจะมีมาก เนื่องจากอิทธิพลจากความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นในระยะที่ผ่านมานั้น ค่อนข้างชัดเจน ว่าการคาดการณ์ค่อนข้างตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้
โดยสสนก.ได้ใช้ข้อมูลจากความแตกต่างของอุณหภูมิในมหาสมุทรและกระแสลม ทำให้พบสัญญาณผิดปกติมาตั้งช่วงเดือนธ.ค. 2550 เป็นต้นมาพบระดับน้ำทะเล มีอัตราที่สูงผิดกว่าเกณฑ์ปกติประมาณ 10 เซนติเมตร ทั้งทางฝั่งตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิก และฝั่งตะวันตกของมหาสมุทรอินเดีย
"จากเดิมระดับน้ำทะเลทนสองฝั่งมหาสมุทร ควรจะเป็นในลักษณะที่ต้องวิ่งตามกัน แต่ตอนนี้ทิศทางของระดับน้ำทะเล กลับวิ่งสวนกันไป ปกติมันต้องวิ่งตามกัน กล่าวคือ ฝั่งอันดามันเคลื่อนจากใต้ไปเหนือ และแปซิฟิกจากเหนือลงมาใต้ ต้องเคลื่อนลงมาเส้นศูนย์สูตร จุดนี้ถ้าจะบอกว่าเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศน่าจะถูกต้องที่สุด" ดร.รอยล กล่าว
แนวพายุผ่านตรงชุมพร-ประจวบ
นอกจากนี้ยังพบข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมาความสูงระดับน้ำทะเล ที่ผิดปกติอยู่แถวบริเวณไต้หวัน และก่อให้เกิดพายุในแถบประเทศไต้หวันและประเทศจีนในช่วง สัปดาห์ก่อน และยังเลื่อนลงใต้มาทางเวียดนามอีกด้วย มันสอดคล้องกับแผนที่อากาศ ร่องความกดดอากาศต่ำ เพราะลักษณะที่แนวพายุพาดผ่าน จะเลื่อนลงใต้ทางฝั่งแปซิฟิกได้ ทางฝั่งอันดามันก็เลื่อนลงมาทางด้านใต้ด้วย เป็นลักษณะตั้งฉากเฉียงกัน แต่ปรากฎว่าไม่ใช่แล้ว ขณะนี้ฝั่งอันดามันกลับไม่เลื่อนลงใต้ และเลื่อนขึ้นเหนือ แต่แนวพายุพาดเป็นแนวเส้นตรง ทำให้แถวชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ ของไทยมีฝนหนักในช่วงนี้
"แม้แต่กรมอุตุนิยมก็บอกว่า เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิด และเริ่มส่อเค้าว่าถึงแม้ฝนจะไม่มีมาก แต่พฤติกรรมที่ไม่เคยเกิดก็เกิด สะท้อนสิ่งที่ผมเคยพูดว่า สถิติใช้ไม่ได้แล้ว ที่ผ่านมาเราเคยใช้ปรากฎการณ์น้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิก มาคาดการณ์ปริมาณน้ำฝน เช่น ถ้าปรากฎการณ์เอลนิโญ่จะมีน้ำน้อย แต่ถ้าเป็นปรากฎการณ์ลานิญ่าจะมีน้ำมากกว่าปกติเท่านั้น คงไม่พอเพียงพอ" ดร.รอยล กล่าว
28 เขื่อนใหญ่ รับมือน้ำท่วม-น้ำแล้ง
ดร.รอยล กล่าวอีกว่า ถ้าดูจากสถิติฝนในปีนี้จากเดิมที่คาดการณ์ว่าฝนจะทิ้งช่วงในปลายเดือนมิ.ย. และก.ค. และทำให้บางจังหวัดต้องประสบปัญหาน้ำขาดแคลนนั้น เป็นการคาดการณ์ที่ผิด เพราะฝนไม่ได้ทิ้งช่วงเลย และตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ฤดูฝนเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศไทย มีฝนสูงกว่าปกติ ส่งผลให้ค่าเฉลี่ยทั้งประเทศสูงกว่าปกติ 37.3 มม . หรือประมาณ 15 % โดยเฉพาะในกทม. มีฝนตกมากกว่าปกติเกือบ 2 เท่า ซึ่งถ้าไม่มีการเตรียมรับมือกันมา เชื่อว่าฝนมากระดับนี้คงมีปัญหาน้ำท่วมใหญ่ทั่วประเทศแล้ว "เขื่อนขนาดใหญ่น่าห่วงและต้องระวังจากอิทธิพลจากฝนในฝั่งอันดามันที่จะมีมากในระยะ 2 เดือนข้างหน้าก็คือเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี เขื่อนนี้ปัจจุบันความจุอ่าง 14,000 ล้านลบ.ม. เก็บได้ 18,000 ล้านลบ.ม. มีน้ำอยู่ประมาณ 80% ทั้งที่ปล่อยออกไปแล้ว ซึ่งหากฝนตกจำนวนมากจะทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วม" ดร.รอยล กล่าวทั้งนี้จากเขื่อนขนาดใหญ่ตามความเสี่ยงน้ำท่วม น้ำแล้ง โดยคำนวณจากค่าเฉลี่ย 4 ปี (ปี 2545 - 2548) พบว่าอีก 28เขื่อนน่าเป็นห่วงเช่นกัน
เขื่อนพวงแก้ความเสี่ยงบริหารน้ำ
นักวิชาการ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่อยากเสนอคือ จะทำอย่างไรให้โครงสร้างบริหารจัดการน้ำสามารถรองรับความเสี่ยง ที่เกิดขึ้นจากภาวะความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ทรงรับสั่งแนวทางไว้ชัดเจนว่า เขื่อนพวง - อ่างพวง คือคำตอบของการบริหารความเสี่ยงประเทศไทย เพราะพระองค์ทรงมองเห็นว่าระบบการจัดการน้ำ สามารถทำได้ โดยใช้ศักยภาพของเขื่อนที่มีอยู่นำมาใช้ประโยชน์ให้เต็มที่ได้อย่างไร ดร.รอยล กล่าวว่า โจทย์คือเราจะบริหารความเสี่ยงได้อย่างไร ถ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศขึ้น ตัวเลขนี้ฟ้องว่าธรรมชาติเปลี่ยน โดยเสนอเปลี่ยนโมเดลการบริหารความเสี่ยงน้ำใหม่โดยการใช้เขื่อนพวงเหมือนกับการบริหารโลจิติกส์ คือสร้งอ่างขนาดเล็กเพื่อเก็บน้ำ เชื่อมต่อกับเขื่อนขนาดใหญ่ ตามสภาพปัญหาของแต่ละเขื่อน เนื่องจากหลังจากนี้ปริมาณฝนที่เปลี่ยนแปลงจากสภาพอากาศ จะส่งผลให้เขื่อนบางเขื่อนมีน้ำมากและบางเขื่อนอาจจะมีน้ำน้อยจนเสี่ยงน้ำแล้ง "ผมยกตัวอย่างเช่นเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ฝนตกเยอะแค่เดือนส.ค. - ก.ย.และไหลพรวดลงมา 2 เท่าของความจุอ่าง เพราะไม่มีอะไรไปเก็บ แต่ถ้าจะบริหารความเสี่ยงได้ ขณะที่ความจุของปริมาณอ่าง 722 ล้านและน้ำต้องไหลทิ้ง 1,000 กว่าล้าน แต่ถ้าปีไหนน้ำมากระดับ 3 พันล้านต้องระบายออก 2 เท่าๆกับน้ำท่วมสุพรรณบุรี นครปฐม ดังนั้น วิธีการเก็บน้ำจะต้องหา โกดังเก็บน้ำ หรือหาอ่างพวงมาเก็บน้ำ มันต้องมีระบบ ก็คือจัดหาอ่างและแก้มลิง ที่เปรียบกับโกดังสินค้า แบบจัดกลุ่มแชร์น้ำมากขึ้นเพื่อเฉลี่ยการเก็บน้ำออกไป" ดร.รอยล กล่าวว่า เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ใช้ระบบเขื่อนพวงตั้งแต่ปี 2549 โดยเขื่อนมีความจุเพียง 1 ใน 3 ของน้ำท่ามีน้ำที่ต้องระบายออกในฤดูฝนมากกว่า 950 ล.ลบ.ม. มากกว่าความจุของเขื่อน ดังนั้นเขื่อนจำเป็นต้องมีระบบเสริมทั้งบริเวณลุ่มเพื่อรับน้ำ และมีพื้นที่ระบายน้ำในช่วงน้ำหลากเดือนก.ย. - ต.ค. จึงใช้ระบบเขื่อนพวงจาก จ.อ่างทางตอนเหนือประมาณ 30 อ่าง เก็บกักน้ำได้ทั้งแล้งและท่วม มากกว่า 300 ล้านลบ.ม.เพื่อช่วยลดความเสี่ยงบริหารจัดการน้ำ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น